ตำนานอยู่ไม่ถึง 8 ปี “มิลาน” ตะเพิด “มัลดินี” หลังมีปัญหาขัดแย้งกับเจ้าของทีม

“มัลดินี” กัปตันทีมระดับตำนานของ เอซี มิลาน ถูกเจ้าของทีมเด้งพ้น ผอ.ฝ่ายเทคนิค หลังมีปัญหาขัดแย้งกับเจ้าของทีม

มิลาน

หลังจากมีรายงานว่า เปาโล มัลดินี อดีตกองหลังกัปตันทีมระดับตำนานชาวอิตาเลียน ของ “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน มีปัญหาขัดแย้งกับ เจอร์รี คาร์ดินาเล ผู้บริหารของกลุ่มทุน RedBird Capital เจ้าของทีม มิลาน เพราะว่าเจ้าตัวต้องการงบเสริมทัพมากขึ้นในตลาดซัมเมอร์นี้ แต่ทางคาร์ดินาเลไม่เห็นด้วย และไม่คิดเปลี่ยนนโยบายการลงทุนในส่วนนี้

ล่าสุด เอซี มิลาน ได้ออกแถลงการผ่าน acmilan.com ประกาศแยกทางกับ มัลดินี โดยระบุว่า “เอซี มิลาน ขอประกาศว่า เปาโล มัลดินี จะยุติบทบาทของเขาที่สโมสร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2023”

“เราขอบคุณเขาสำหรับการทำงานในตำแหน่งนี้มาหลายปี และมีส่วนช่วยให้เรากลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และคว้าแชมป์สคูเด็ตโต (แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี) ในฤดูกาล 2021/22”

“หน้าที่ของเขาจะดำเนินการโดยทีมงานที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับโค้ชทีมชุดใหญ่ และจะรายงานผลต่อซีอีโอ”

สำหรับ มัลดินี ถือเป็นขวัญใจอันดับหนึ่งของแฟนบอลมิลาน ที่เข้ามาร่วมบริหารงานมิลานมาตั้งแต่ปี 2018 โดยมีผลงานเด่นของการพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อา เมื่อฤดูกาล 2021/22 รวมถึงล่าสุดคือการจับแนวรุกตัวเก่งของทีมอย่าง ราฟาเอล เลเอา ต่อสัญญาใหม่ยาวจนถึงปี 2028

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : พรีเมียร์ลีก พร้อมขายแข้งทีเด็ด “แมนยูฯ” เตรียมปล่อย 13 นักเตะพ้นทีม เพื่อคว้า 1 แข้งตัวจี๊ด

พรีเมียร์ลีก พร้อมขายแข้งทีเด็ด “แมนยูฯ” เตรียมปล่อย 13 นักเตะพ้นทีม เพื่อคว้า 1 แข้งตัวจี๊ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวพร้อมปล่อย 13 นักเตะพ้นทีม เพื่อคว้ากองหน้ามาเสริมคม ช่วย มาร์คัส แรชฟอร์ด ลาตาข่าย ซีซั่น 2023-24

แมนยู
ความเคลื่อนไหว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022-23 ที่กำลังขับเคี่ยวแย่งโควตายูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2023-24 อย่างสนุกในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล มีรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ ว่า “ปิศาจแดง” เตรียมปล่อยนักเตะทั้งในรูปแบบขาย-ฟรี ถึง รวมแล้ว 13 ราย เพื่อหาเงินสมทบทุนกองหน้าที่จะมาช่วย มาร์คัส แรชฟอร์ด ผลิตสกอร์กันต่อในซีซั่นถัดไป

สำหรับ 13 รายของ “ปิศาจแดง” ที่จะปล่อยประกอบไปด้วย เซ็ตแรก (ปล่อยตัวเพื่อนำเงินมาซื้อนักเตะใหม่) คือ ดีน เฮนเดอร์สัน, เอริก ไบยี, แฮร์รี แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส, แบรนดอน วิลเลียมส์, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, แอนโธนี อีแลงกา, อ็องโตนี มาร์กซิยาล

เซ็ต 2 (ปล่อยตัวเพราะหมดสัญญา) คือ ฟิล โจนส์, อักเซล ตวนเซเบ, อีธาน กัลเบรธ, ออนเดรจ มาสต์นี และชาร์ลี เวลเลนส์

ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก 2022-23 มี 66 คะแนน จาก 35 นัด นำหน้าอันดับ 5 ลิเวอร์พูล อยู่ 1 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด มีโอกาสพอมากพอตัวที่จะได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : 5 นาทีรู้เลย! เป๊ปเล่าประสบการณ์เห็นโอเดการ์ดครั้งแรกตอนซ้อมกับบาเยิร์น

5 นาทีรู้เลย! เป๊ปเล่าประสบการณ์เห็นโอเดการ์ดครั้งแรกตอนซ้อมกับบาเยิร์น

กุนซือแมนฯ ซิตี้ เล่าถึงความทรงจำตอนที่เห็นฝีเท้าของกัปตันทีมอาร์เซนอลครั้งแรก เมื่อมาทดสอบฝีเท้ากับบาเยิร์น มิวนิค ตอนที่ยังอายุเพียง 16 ปี

เป๊ปเล่าประสบการณ์

เป๊ป กวาร์โอลา เฮดโค้ชแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่าถึงตอนที่ได้เห็นฝีเท้าของ มาร์ติน โอเดการ์ด ครั้งแรก สมัยเป็นโค้ชให้บาเยิร์น มิวนิค ว่าเป็นคนที่เก่งมากจนมองเห็นได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที

กัปตันทีมอาร์เซนอลเคยตระเวนฝึกซ้อมกับบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรป ตอนที่อายุ 16 ปี ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด ซึ่งในหนึ่งในคือทีมเสือใต้ซึ่งทางกวาร์ดิโอลาเป็นโค้ชอยู่

“ผมจำได้ดีเลย เขามากับพ่อของเขาเพื่อฝึกซ้อมกับเราอยู่ 2-3 วัน ผมใช้เวลาแค่ 5 นาทีแล้วก็คิดว่า นักเตะคนนี้เล่นเหมือนพระเจ้าเลย” เฮดโค้ชเรือใบสีฟ้ากล่าวก่อนเกมพบปืนใหญ่

“ผมคิดว่าเขาไปทัวร์มาทั่วยุโรปเลย ไปฝึกซ้อมมากับหลายทีมมากๆ ในท้ายที่สุด อาร์เซนอลก็เป็นสโมสรที่ดึงดูดใจเขา เขาเป็นนักเตะที่โดดเด่น เป็นกัปตันอาร์เซนอลด้วยวัยเท่านี้ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ นั่นเป็นเพราะเขาต้องมีบุคลิกที่โดดเด่น มีจุดแข็งที่พร้อมจะเป็นกัปตัน อาร์เตต้าคงไม่ให้เขาเป็นกัปตันทีมหรอก ถ้าเขาไม่มีจุดเด่นที่พร้อมจะเป็นกัปตัน”

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : ‘ราชัน’ เหล่ ‘ฟาบินโญ่’ แข้งกาแฟเสริมแดนกลางช่วงซัมเมอร์

‘ราชัน’ เหล่ ‘ฟาบินโญ่’ แข้งกาแฟเสริมแดนกลางช่วงซัมเมอร์

สื่อสแปนิช ระบุ เรอัล มาดริด วาง ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์แซมบ้าของ ลิเวอร์พูล เป็นเป้าหมายในการคว้าตัวช่วงเปิดตลาดนักเตะกลางปี 

ฟิชาเฆส สื่อชั้นนำแดนกระทิงดุรายงานข่าวว่า เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ในศึกลาลีกา สเปน กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ ฟาบินโญ่ กองกลางบราซิเลี่ยนอย่างใกล้ชิด หลังจากเริ่มไม่เป็นที่ไว้วางใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงหลัง ขณะเดียวกัน หงส์แดง ก็ต้องการยกเครื่องแดนกลางใหม่โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นเป้าหมายหลักในตลาดนักเตะกลางปีนี้

ข่าวกีฬาวันนี้

ดาวเตะวัย 29 ปี เป็นผู้เล่นคนสำคัญในถิ่นแอนฟิลด์นับตั้งแต่ย้ายจาก โมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส มาในปี 2018 โดยลงเล่นให้สโมสรไป 203 นัด ทำได้ 11 ประตูและ 8 แอสซิสต์ พร้อมกับ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ, คอมมูนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในระหว่างที่ค้าแข้งและเขายังมีสัญญาเหลืออีก 3 ปีด้วยกัน

รายงานระบุว่า เร้ด แมชชีน ยินดีที่จะหารือเกี่ยวกับทางออกของมิดฟิลด์มากประสบการณ์ หากพวกเขาได้รับข้อเสนอไม่ต่ำกว่า 62 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,585 ล้านบาท เนื่องจากพวกเขาต้องระดมเงินทุนเพื่อนำไปซื้อ เบลลิงแฮม ซึ่งแน่นอนว่า ค่าตัวที่ เสือเหลือง ตั้งเอาไว้คงไม่ใช่ราคาที่ถูกอย่างแน่นอน แถมยังต้องแข่งกับ มหาเศรษฐีทีมอื่น ส่วน แข้งแดนกาแฟ ที่เคยเล่นกับ มาดริด แบบยืมตัว สภาพร่างกายก็เริ่มโรยราลงไปไม่เหมาะกับลีกแดนผู้ดี

เวลานี้ ผู้เล่นมากประสบการณ์ของ ราชันชุดขาว อย่าง โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช และ ดานี่ เซบาญอส กำลังหมดสัญญาในสิ้นเดือนมิถุนายน และเป็นไปได้ว่าอย่างน้อยหนึ่งในนั้นจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว พวกเขาจึงต้องมองหาแข้งมากประสบการณ์เข้ามาช่วยบรรดานักเตะรุ่นน้องอย่าง เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

สำหรับ เรอัล มาดริด เวลานี้รั้งอันดับ 2 ของตาราง ลาลีกา โดยเกมล่าสุดในศึก ดาร์บี้ แมตช์เมืองหลวงของสเปน พวกเขาต้องไล่ตามตีเสมอ แอตเลติโก มาดริด ที่เหลือ 10 คน ไป 1-1 ทำให้แต้มสะดุดมี 52 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า อยู่ 7 แต้ม ทำให้โอกาสในการลุ้นป้องกันแชมป์ลีกในประเทศยากลำบากขึ้นไปอีก ข่าวกีฬาแนะนำ>>> ส่องเส้นทางคู่ชิงฟุตบอลโลก 2022 “อาร์เจนตินา VS ฝรั่งเศส”

ส่องเส้นทางคู่ชิงฟุตบอลโลก 2022 “อาร์เจนตินา VS ฝรั่งเศส”

ในที่สุดศึกฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้คู่ชิงชนะเลิศเรียบร้อย ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฝรั่งเศส ที่เป็นแชมป์เก่า

โดยเกมรอบชิงฯ จะมีขึ้นในคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้ (เวลา 22.00 น.) ทั้งสองทีมต่างมีดีกรีแชมป์โลก 2 สมัยเหมือนกัน แต่ ฝรั่งเศส มาในฐานะแชมป์จากครั้งก่อน (ปี 2018) ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขามุ่งมั่นเหลือเกินที่จะกลายเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ บราซิล ในปี 1962 ที่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ได้ ส่วนฝั่ง อาร์เจนตินา ที่ไม่ได้แชมป์มาตั้งแต่ปี 1986 แถมผิดหวังในรอบชิงฯ สองครั้งหลังสุด (ปี 1990 และ 2014) ก็ตั้งใจมากๆ ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ ที่หวังได้ชูถ้วยแชมป์โลก เป็นการส่งท้ายเวที ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ และนี่คือเส้นทางของคู่ชิงฯ บอลโลกหนนี้

ข่าวฟุตบอลวันนี้ เชลซี

– อาร์เจนตินา

ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ทีมของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ ถูกมองเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ ทว่าพวกเขากลับออกสตาร์ทแบบสุดช็อก ด้วยการพลิกล็อกพ่ายต่อ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 อย่างไรก็ตาม ทัพ “ฟ้า-ขาว” รวบรวมสมาธิกลับมาได้ และคว้าชัยสวยๆ สองนัดติดในรอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นพอถึงรอบน็อกเอาต์ อาร์เจนตินา ก็สามารถฝ่าด่าน ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์ และ โครเอเชีย มาได้ โดยเฉพาะเกมรอบตัดเชือก ที่ไล่ต้อนทีม “ตาหมากรุก” รองแชมป์เก่า 3-0 ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงสำหรับทัพ “ฟ้า-ขาว” เลยทีเดียว

สรุปเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ

รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่ม ซี) : แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2, ชนะ เม็กซิโก 2-0, ชนะ โปแลนด์ 2-0

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ ออสเตรเลีย 2-1

รอบก่อนรองชนะเลิศ : ชนะดวลจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 (เสมอ 2-2 ใน 120 นาที)

รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โครเอเชีย 3-0

ดาวเด่น : ลิโอเนล เมสซี่

แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากสำหรับ เมสซี่ เพราะผลงานทำ 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ช่วยการันตีความยอดเยี่ยมและความสำคัญของ ดาวเตะจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 35 ปี ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่า นี่คือฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้วด้วย ดังนั้น เมสซี่ จึงมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำความฝันหนึ่งเดียวที่ยังไปไม่ถึง ให้กลายเป็นความจริง

– ฝรั่งเศส

ทีมแชมป์เก่า ที่ไม่มีสตาร์ดังอย่าง คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ป็อกบา ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างไม่ยากลำบาก โดยพวกเขาการันตีเข้ารอบเป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนต์ หลังคว้าชัยรวดในสองนัดแรก ส่วนรอบน็อกเอาต์ ทัพ “ตราไก่” ของกุนซือ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็สามารถโค่นคู่แข่งหินๆ อย่าง โปแลนด์, อังกฤษ รวมถึงม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์อย่าง โมร็อกโก ได้ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมทีเดียว พร้อมกับผลงานอันโดดเด่นของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ อ็องตวน กรีซมันน์

สรุปเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ

รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่ม ดี) : ชนะ ออสเตรเลีย 4-1, ชนะ เดนมาร์ก 2-1, แพ้ ตูนิเซีย 0-1

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ โปแลนด์ 3-1

รอบก่อนรองชนะเลิศ : ชนะ อังกฤษ 2-1

รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โมร็อกโก 2-0

ดาวเด่น : คีลิยัน เอ็มบัปเป้

ถึงแม้ไร้สกอร์และแอสซิสต์ในสองนัดหลัง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เอ็มบัปเป้ คือผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มเด่นสุดของทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ จากผลงานกระทุ้ง 5 ประตู พร้อมกับทำ 2 แอสซิสต์ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาวยิงจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 23 ปี คือความหวังสูงสุดของ ฝรั่งเศส สำหรับการล่าประตูในเกมรอบชิงฯ ที่สังเวียนแข้ง ลูเซล สเตเดี้ยม วันอาทิตย์นี้

ข่าวแนะนำ : แฉปีเก้ขอค่าเหนื่อยสูงกว่ารามอส บาร์ซ่าก็ยอม

แฉปีเก้ขอค่าเหนื่อยสูงกว่ารามอส บาร์ซ่าก็ยอม

เอล มุนโด้ สื่อของสเปน ระบุ ย้อนกลับไปหลายปีก่อน เคราร์ด ปีเก้ เคยบอกกับ บาร์เซโลน่า ว่าจะยอมต่อสัญญาก็ต่อเมื่อได้ค่าเหนื่อยสูงกว่า

ข่าวกีฬา

ซร์คิโอ รามอส จนสุดท้ายเขาก็ได้เงินชนิดที่ทำให้เป็นกองหลังที่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดของโลก

เคราร์ด ปีเก้ กองหลังคนดังของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน เคยเรียกร้องจากสโมสรว่าเขาต้องได้ค่าเหนื่อยเยอะกว่า เซร์คิโอ รามอส ในตอนก่อนจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมเมื่อปี 2018 ตามการเปิดเผยของ เอล มุนโด้ สื่อชื่อก้องของแดนกระทิงดุ

ช่วงหลายวันที่ผ่านมา เอล มุนโด้ ออกมาตีแผ่เรื่องวงในของ บาร์เซโลน่า ให้คนได้อ่านกัน หลังจากพวกเขาอ้างว่าได้รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาและข้อตกลงต่างๆ ที่ฝ่ายการเงินของ บาร์เซโลน่า เก็บเอาไว้ อย่างก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดเผยเรื่องข้อเรียกร้องที่ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องการเพื่อแลกกับการต่อสัญญาไปแล้ว

ทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง! ชากีร่า ขอลา บาร์เซโลน่า ใช้ชีวิตสงบที่ ไมอามี่
– แตกหัก?ลือชาบีสวนปีเก้เรื่องโอกาสลงสนาม

สำหรับกรณีของ ปีเก้ นั้น เขาตั้งข้อกำหนดกับสโมสรว่าต้องการได้เงินมากกว่า รามอส ที่หลายปีก่อนรับค่าเหนื่อยกับ มาดริด ฤดูกาลละเกือบ 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 462 ล้านบาท) ซึ่งสุดท้าย โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานของ บาร์เซโลน่า ในช่วงนั้นก็ยอมทำตามคำขอด้วยการให้ค่าเหนื่อยเขาเกิน 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 546 ล้านบาท) ต่อซีซั่น แถมตัวสัญญายังมีระยะเวลาถึง 5 ปีอีกต่างหาก โดยมันทำให้ ปีเก้ เป็นกองหลังที่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดของโลกในตอนนั้นเลยทีเดียว

นอกจากค่าเหนื่อยก้อนโตแล้วนั้น บาร์เซโลน่า ยังมีเงื่อนไขจ่ายเงินให้ ปีเก้ เพิ่มอีก 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 252 ล้านบาท) ในเงื่อนไขที่เรียกว่า “โบนัสภาษี” ด้วย โดยมันถือเป็นการให้เงินชดเชยจากการที่ ปีเก้ จะโดนกรมสรรพากรของสเปนเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง โดยหากนับแบบรวมๆ แล้วนั้น สัญญาระยะเวลา 5 ปีฉบับดังกล่าวของ ปีเก้ ทำให้เขาได้เงินตลอดระยะเวลาของสัญญาถึง 124 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,208 ล้านบาท) ด้วยกัน